วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554

น้องเค้ก เธอผู้ไม่แพ้



คุณเคยท้อไหม ... ลองฟังเรื่องราวของสาวน้อยคนนี้ แล้วคุณจะมีกำลังใจมากขึ้น....











ที่มา :   http://blog.eduzones.com/jipatar/13985    30 พ.ย. 2551 ผู้จัดการออนไลน์
                      วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นายสุรศักดิ์ ธรรมกิตติ อายุ 46 ปี นางกนกวรรณ แสงแก้ว อายุ 43 ปี ทั้ง 2 พักอยู่บ้านเลขที่ 45/2185 หมู่บ้านดีเค ซอย 26 ถนนพญามนพ่าย แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม.พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล สว.สส.สน.บางยี่เรือ และ ร.ต.อ.สุนทร พิมพ์พา พงส.(สบ 1) สน.บางยี่เรือ เดินทางมาที่ รพ.บางมด 1 เพื่อตรวจสอบอาการของ น.ส.อัญธิกา ธรรมกิตติ หรือน้องเค้ก อายุ 21 ปี นศ.มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา คณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ได้เข้าพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู ชั้นที่ 4 ของ รพ.ดังกล่าว หลังถูก นายอเนก กมลเวช อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซอยจิ๊บดำริห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.สาดน้ำกรดใส่ตามร่างกายและใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.วันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา บริเวณหน้า ม.ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ย่านฝั่งธนบุรี
  น.ส.อัญธิกา ธรรมกิตติ หรือน้องเค้ก อายุ 21 ปี สมัยที่เป็นพริตตี้
                        นางกนกวรรณ กล่าวว่า น้องเค้ก เป็นบุตรสาวของตนกับ นายสุรศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียว โดยน้องเค้กได้รู้จักกับ นายเอนก ทางเว๊ปไฮไฟท์ ตั้งแต่เมื่อประมาณเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วน นายอเนกนั้นเปิดร้านเกมอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/1 หลังจากได้พุดคุยกันอยู่สักพัก น้องเค้กก็เลยเชื่อใจและยอมคบหาเป็นเพื่อนด้วยประมาณ 5-6 เดือนที่แล้ว จากนั้น น้องเค้กก็มาทราบว่า นายอเนก มีคดีติดตัวคือพยายามฆ่า ซึ่งศาลชั้นต้นได้ตัดสินจำคุก 10 ปี ขณะนี้เรื่องอยู่ในศาลอุธรณ์ น้องเค้กจึงได้พยายามตีตัวออกห่าง แต่นายอเนกไม่ยอมเลิกราทั้งยังตามมาราวีก่อกวนตลอด ล่าสุดเมื่อประมาณกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา นายอเนก ได้โทรศัพท์มาถามหาน้องเค้กที่บ้าน ตนจึงบอกว่าน้องเค้กไปงานแต่งเพื่อน 2-3 ทุ่ม ถึงจะกลับ
       
           “จากนั้นประมาณ 20.00 น.ของวันเดียวกัน ก็ได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ขับรถ จยย.มาจอดที่หน้าบ้านท่าทางมีพิรุธ ตนจึงไปตาม นายสุรศักดิ์ มาพร้อมกับเปิดไฟหน้าบ้าน ชายวันรุ่นทั้ง 2 คน จึงขับรถ จยย.ออกไป จากนั้นตนจึงโทรศัพท์ไปบอกให้น้องเค้กทราบเรื่องพร้อมให้ระวังตัว เมื่อน้องเค้กมาถึงบ้านตนก็รีบให้เข้าบ้านปิดประตูล็อคกุญแจทันที จนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที นายอเนกก็โทรศัพท์เข้ามือถือน้องเค้ก แล้วพูดว่า “วันนี้รอดไปนะมึง” แต่อีกประมาณ 30 นาทีต่อมานายอเนกก็โทรศัพท์มาหาน้องเค้กอีก พร้อมทั้งให้ลงมาพูดคุยกันที่หน้าบ้าน แต่น้องเค้ก ไม่ยอมออกไปและส่งโทรศัพท์ให้ตนคุย จึงบอกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาคุยเถอะนะ วันนี้มันดึกแล้วกลับไปก่อน” นางกนกวรรณ กล่าว

นายเอนก กมลเวช อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาที่สาดน้ำกรด
               นางกนกวรรณ กล่าวต่อไปว่า จึงทำให้ นายอเนก เกิดความโมโห  และพูดตอบโต้ว่า “พวกมึงก็มุดหัวอยู่ในบ้านต่อไปนะ ถ้าออกมาเมื่อไรกูจะยิงให้หัวกุดเลย” ตนจึงตัดสายทั้งแล้วโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที เมื่อตำรวจมาถึงก็พาตัว นายอเนกไปพูดคุยที่โรงพักพร้อมกับตน  หลังมาพูดคุยกันที่โรงพักตำรวจก็แจ้งกับตนว่า ไม่สามารถดำเนินคดีได้  เพราะเป็นคำขู่เท่านั้น นายอเนก จึงพูดกลับว่า “ไม่ต้องกลัวหลอกหากผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรไป ก็ผมนี้แหละเป็นคนทำ ผมไม่กลัวหลอก” ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา นายอเนกก็โทรศัพท์มาขู่น้องเค้กตลอดเวลา จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ขณะที่น้องเค้กกำลังเดินทางอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัย ก็ถูกคนร้ายสาดน้ำกรดใส่หน้าและร่างกายจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จนจึงคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของนายอเนกอย่างแน่นอน
                      นางกนกวรรณ กล่าวต่ออีกว่า ปกติน้องเค้กเป็นเด็กเรียนดี กำลังจะได้เกียรตินิยม จากมหาวิทยาลัยฯ แต่ยังไม่ทราบอันดับ และเมื่อประมาณปี 2548 น้องเค้กก็ได้เป็นดาวของมหาวิทยาลัยราชภัฎภาคกลางอีกด้วย จนทำให้บริษัทรถยนต์หลายบริษัทสนใจ และรับให้เป็นพริตตี้ในงานเปิดตัวรถยนต์มาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งถ่ายแบบลงนิตยสารอีกหลายเล่มด้วย แต่กลับมาเกิดเหตุร้ายเสียก่อน ซึ่งตนก็รู้สึกสลดใจ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวตน จึงได้ไปร้องเรียนมูลนิธิปวีณา ให้ช่วยเหลือ เพื่อให้เร่งรัดจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
                     
ด้าน นางปวีณา กล่าวว่า หลังตรวจสอบอาการของ น้องเค้กแล้วพบว่า ได้รับบาดเจ็บใบหน้า ไหลซ้าย แขนทั้ง 2 ข้าง ลำคอ และต้นขาซ้าย ส่วนที่อาการหนักที่สุดเห็นจะเป็นดวงตาซ้าย ที่มีอาการมองเห็นเลือนลาง อาจถึงขั้นบอดได้ถ้าได้รับการรักษาที่ไม่ทันท่วงที ซึ่งต้องให้ทางแพทย์หากระจกตามาเปลี่ยน จึงจะทำให้ความสามารถในการมองเห็นกลับมาเป็นปกติ ส่วนที่ตาขวานั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย การมองเห็นยังปกติ สำหรับบาดแผลตามใบหน้านั้นต้องทำศัลยกรรมคาดว่าจะหาย 100 เปอร์เซ็นต์ และคงต้องนอนรักษาตัวอย่างน้อย 1 เดือน โดยทางมูลนิธิปวีณา จะไม่ทอดทิ้ง พร้อมให้ความเป็นธรรม หลังจากนี้จะประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้

                     ทางด้าน ร.ต.อ.สุนทร กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำผู้เสียหายได้ เนื่องจากมีอาการสาหัส ซึ่งคงต้องสอบปากคำพ่อกับแม่ของผู้เสียหาย เพื่อน พยานในที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อม อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณรูปจากคุณ : arnold_A1 pantip.com   


หากน้องเค้กผ่านมาอ่านเจอบล็อคนี้  ขอมอบเพลงนี้เป็นกำลังใจให้น้อง    
ขอให้น้องเข้มแข็งมีความสุข และประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน นะจ๊ะ สู้ๆ  ^_^     



  >>>> ขอบคุณ น้องเค้กและครอบครัว และรายการวีไอพี ที่ให้แง่คิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต